ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ทวิตเตอร์ @Bam_Bam1A
เฟรินในชุดนอนสีขาวตัวบางกำลังนอนคว่ำหน้าทำการบ้านอยู่บนเตียงของคาโล คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิดเพราะการบ้านที่มันทั้งยากและเยอะที่ทำยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จซักที นี่ก็เพิ่งเปิดเทอมแท้ๆ ไหงอาจารย์ประจำชั้นปีที่สี่ถึงได้สั่งงานกันกองพะเนินเทินทึกราวกับพยายามจะชดเชยในส่วนของวันหยุดที่นักเรียนได้พักระหว่างปิดเทอม"โอ๊ยยยยยยยยยยยย การบ้านอะไรทำไมมันเยอะแยะขนาดนี้เนี่ยยยยยยยยยยย" กล่าวพลางก็ฟุบหน้าลงบนกองการบ้านตรงหน้าก่อนจะผงกหัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อนึกแผนเจ้าเล่ห์ออก
"คาโล เรามาสลับกันทำการบ้านมั้ย? "
"ทำไมฉันต้องสลับกับเธอด้วยในเมื่อฉันทำของตัวเองเกือบจะเสร็จอยู่แล้ว"
"ก็นี่ไง เพราะนายทำเร็ว ถ้าเราสลับกันเราก็จะได้ทำเสร็จพร้อมกันพอดี ไม่ดีหรอ!?" กล่าวเสียงสดใสพยายามจูงใจคนฟังสุดฤทธิ์จนคาโลต้องยอมผละจากการบ้านตรงหน้ามาสนใจแม่ตัวดี
"ไม่ต้องมาเจ้าเล่ห์เลยยยยยยยยยย" กล่าวพลางบีบปากอิ่มของเฟรินด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่แล้วภาพปากอวบอิ่มสีแดงที่บวมเป่งเพราะถูกบีบกลับทำให้คนบีบใจกระตุกเสียอย่างนั้น มันเหมือนสัญชาตญาณดิบในตัวกำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้น คาโลกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะรีบปล่อยมือแล้วกลับไปนั่งทำงานตามเดิม
"ต่างคนต่างทำของตัวเองไปน่ะดีแล้ว เดี๋ยวการบ้านก็ไม่เสร็จกันพอดี" แต่จะเสร็จในแง่อื่นแทน...ประโยคหลังต่อท้ายในใจเบาๆเพราะขืนพูดไปได้โดนแม่ตัวดีส่งหมัดลุ่นๆมาให้แน่
"เชอะ ทำเองก็ได้ ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างเฟริน เดอเบอโรว์จะทำการบ้านแค่นี้ไม่เสร็จ!!!!" ประกาศเสียงดังด้วยความมั่นใจก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างเอาเป็นเอาตายเรียกให้คนที่แอบมองอยู่ต้องอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
แต่ดูเหมือนคราวนี้คนอย่างเฟริน เดอเบอโรว์จะไม่สามารถทำอย่างที่พูดได้จริงๆเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วแต่การบ้านก็ยังคงไม่คืบหน้าไปถึงไหน ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมองด้วยสายตาละห้อยไปยังเจ้าชายคนเก่งที่ตอนนี้ทำการบ้านของตนเสร็จเรียบร้อยและกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
"คาโลลลลลลลลลลลลลล" พยายามใช้เสียงที่คิดว่าหวานที่สุดเพื่อออดอ้อนเจ้าชายคนเก่งแต่ดูเหมือนว่าคาโลไม่คิดจะหันมาสนใจเธอสักนิด ใบหน้าคมยังคงก้มลงอ่านหนังสือต่อไปอย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ้น
"คาาาาาาาาาาาาโลลลลลลลลลลลลลลล" เฟรินลากเสียงยาวและดังขึ้นเพื่อหวังจะให้คาโลยอมหันมาสนใจเธอแต่ก็ไม่เป็นผล เห็นทีจะต้องใช้ท่าไม้ตายเสียแล้ว ร่างบางลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินตรงเข้าไปหาร่างใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะหนังสือ มือเรียวหยิบหนังสือออกจากมือใหญ่ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งบนตักแกร่งพร้อมใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้
"คาโลลลลลลลล ช่วยฉันทำการบ้านหน่อยสิ นะๆๆๆๆๆ" กล่าวเสียงหวานพร้อมทั้งช้อนดวงตากลมโตสีน้ำตาลขึ้นมองดวงตาสีฟ้าสวยอย่างออดอ้อน ชุดนอนตัวบางสีขาวคอกว้างจนเมื่ออยู่ในระยะใกล้ก็เห็นไปถึงไหนต่อไหน ไหนจะกระโปรงที่เลิกขึ้นจนเห็นขาอ่อนเมื่อนั่งอยู่บนตักทำเอาคาโลใจเต้นผิดจังหวะ ขืนเฟรินยังไม่เลิกอ้อนด้วยวิธีแบบนี้มีหวังเขาได้ช่วยทำการบ้านอย่างอื่นแทนแน่ คิดได้ดังนั้นคาโลก็รีบหันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมทั้งหลบสายตาที่แสนออดอ้อนของเฟรินเสียก่อนจะกัดฟันปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ไม่!"
"โถ่คาโล นายก็ทำของนายเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ ช่วยฉันทำหน่อยเถอะนะ ถ้านายไม่ช่วยมีหวังคืนนี้ฉันไม่ได้นอนแน่ๆเลย นะๆๆๆๆ" กล่าวพร้อมกับขย่มตัวไปด้วยจนคาโลต้องกัดฟันกรอด 'ใช่ มีหวังคืนนี้เธอไม่ได้นอนแน่ๆถ้ายังไม่หยุดทำแบบนี้' คิดในใจอย่างสุดจะทนแล้วสุดท้ายคาโลก็ทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นยืนกระทันหันทำเอาเฟรินที่นั่งอยู่บนตักหล่นตุ้บลงไปบนพื้น
"โทษที ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว" กล่าวเสร็จก็เดินดุ่มๆเข้าห้องน้ำไปเลยก่อนจะปิดประตูตามหลังเสียงดัง
"ปั้ดโธ่ ปวดท้องหนักก็น่าจะบอกกันดีๆ ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลย ก้นฉันจะระบมมั้ยเนี่ย โอ๊ย!" บ่นพลางลูบก้นป้อยๆด้วยความเจ็บก่อนจะกลับไปนั่งทำการบ้านต่อเพราะคิดว่าคาโลคงไม่ว่างมาช่วยเธอแล้ว
ผ่านไปซักพักใหญ่แล้วแต่คาโลก็ยังไม่มีทีท่าจะออกมาจากห้องน้ำจนเฟรินเริ่มรู้สึกเป็นห่วงจึงลองตะโกนเรียก
"คาโล! ยังไม่เสร็จอีกหรอ นายเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ!"
ไร้เสียงตอบรับจากคนที่อยู่ในห้องน้ำ เฟรินเริ่มรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆจึงเดินไปที่ห้องน้ำและกำลังจะเคาะประตูเรียกคาโลอีกครั้งแต่บังเอิญได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาจากห้องน้ำเสียก่อน
"เฟริน.......เฟรินนน......อื้มมมมมมมม" เสียงแหบพร่าที่ร้องเรียกชื่อเธอทำให้สาวน้อยที่แอบฟังอยู่นอกห้องน้ำหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที พวงแก้มขึ้นสีแดงจนสุกปลั่งด้วยความเขินอาย ก็นึกว่าหายไปทำอะไรตั้งนานสองนานที่แท้ก็............จะว่าไปแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอกับเขาก็ยังไม่เคยมีอะไรกันอีกเลย ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยแน่ใจแต่คิดว่าต้องเป็นเพราะคาโลยังฝังใจกับเหตุการณ์ในครั้งนั้นแน่ๆถึงไม่ยอมแตะต้องเธออีกเลย บางทีเธอก็รู้สึกว่าคาโลมีท่าทีแปลกๆเมื่อเธอเข้าใกล้เขามากเกินไปแต่ไม่เคยนึกเลยว่าคาโลต้องอดกลั้นมากแค่ไหน........
เสียงกลอนประตูถูกปลดล็อกดังกริ๊กตามมาด้วยบานประตูที่ถูกเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าคมของคาโลที่เปียกไปด้วยน้ำเพราะเพิ่งล้างหน้ามา คาโลชะงักกึกเมื่อพบว่าเฟรินยืนรอเขาอยู่หน้าห้องน้ำ ใบหน้ารูปสลักแข็งกลายเป็นรูปสลักไปแล้วจริงๆก่อนแก้มจะขึ้นสีระเรื่อเมื่อตระหนักได้ว่าเฟรินต้องได้ยินเสียงของเขาแน่ๆ
"เธอ............มายืนอยู่ตรงนี้นานรึยัง"
"ก็นานมากพอที่จะรู้ว่านายเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำตั้งนานสองนานนั่นแหละ" คำพูดของเฟรินเล่นเอาคาโลไปต่อไม่เป็น เขาได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
"ทำไมต้องอดกลั้นขนาดนั้น ทำไมต้องฝืนตัวเองด้วย ฉันเป็นคู่หมั้นนายนะ นายมีสิทธิ์ในตัวฉันทุกอย่าง"
"ฉัน......ฉันกลัวว่าจะเผลอทำร้ายเธออีก ฉันไม่อยากตื่นมาพบกับรอยบาดแผลบนตัวเธอที่เกิดจากฝีมือฉันอีกแล้ว ฉัน......." เสียงของคาโลถูกกลืนหายไปเพราะปากหยักโดนปิดด้วยปากอิ่มที่ประกบลงมาอย่างกระทันหัน เฟรินใช้จูบสื่อแทนความรู้สึกจากก้นบึ้งของใจเธอเพื่อหวังจะให้คาโลได้รับรู้ว่าเธอรักเขาและต้องการเขาไม่ต่างจากที่เขาต้องการเธอ
"การที่นายฝืนตัวเอง ไม่ได้มีแค่นายคนเดียวที่ทรมานนะ ฉันเองก็ทรมานไม่ต่างจากนายหรอก เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง ให้ฉันช่วยนายเถอนะ" ปากหยักอ้าขึ้นราวกับกำลังจะเถียงแต่เฟรินไม่เปิดโอกาศให้คาโลได้แย้งอะไรได้ เธอจัดการประกบจูบเขาอีกครั้งด้วยระดับที่ร้อนแรงขึ้น มือเรียวจัดการกับเสื้อของร่างสูงก่อนจะถอดมันออกไปได้อย่างทุลักทุเลโดยที่ริมฝีปากยังไม่ละออกจากใบหน้าของคาโลเลย มือใหญ่เริ่มปัดป่ายไปทั่วร่างอรชรและบีบคลึงไปทั่วก้นกลมกลึง คาโลดันตัวของเฟรินเข้าไปในห้องน้ำและอุ้มเฟรินขึ้นนั่งบนอ่างล้างหน้า จากตอนแรกที่เฟรินเป็นผู้ควบคุมเกมแต่กลายเป็นว่าตอนนี้คาโลเปลี่ยนกลับมาเป็นฝ่ายรุกเสียเอง
ชุดนอนสีขาวตัวบางถูกปลดออกจากตัวด้วยความรวดเร็วพอๆกับที่เสื้อผ้าที่ยังเหลืออยู่ของคาโลถูกถอดออก คาโลค่อยๆผละริมฝีปากออกจากปากอวบอิ่มอย่างอ้อยอิ่งด้วยความเสียดายก่อนจะหันมาสนใจอย่างอื่นแทน ปากหยักค่อยๆก้มลงประทับจูบบนเนินอกอิ่มก่อนจะไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ ลิ้นร้อนไล้วนรอบเม็ดทับทิมสีชมพูสดก่อนจะใช้ทั้งปากครอบครองและดูดดุนจนมันขึ้นสีเข้มกว่าเดิมสร้างความรัญจวนใจแก่หญิงสาวจนต้องแอ่นอกขึ้นแล้วใช้มือเท้าไว้กับอ่างล้างหน้า ลิ้นสากไล้เลียลงมาเรื่อยๆจนถึงจุดอ่อนไหวของหญิงสาว มือแกร่งค่อยๆจับขาข้างหนึ่งของเฟรินให้ชันขึ้นก่อนจะก้มลงดื่มชิมน้ำหวานจากบุปผางาม ลิ้นร้อนไล้เลียลึกเข้าไปในใจกลางบุปผาสร้างความเสียวกระสันให้แก่สาวน้อยจนต้องขยุ้มเรือนผมสีเงินเพื่อระบายอารมณ์ เฟรินกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือดด้วยความเสียวเมื่อลิ้นร้อนไล้วนเร็วและรัวขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดร่างบางก็ทนไม่ไหวต้องปล่อยเสียงครางออกมา
"อ๊ะ อ๊าาาาาาาา คาโลลลล ฉะ ฉันไม่ไหว แล้ววววววววว อ้าาาาาาาาา" ร่างบางกระตุกเกร็งสองสามครั้งก่อนทั้งร่างจะอ่อนปวกเปียกไปหมด คาโลดูดกลืนน้ำหวานทุกหยาดหยดก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้สาวน้อยที่นอนหมดแรงพิงผนังห้องน้ำ มือใหญ่หยิบปอยผมที่หล่นลงมาปรกใบหน้าเฟรินก่อนจะทัดมันไว้หลังใบหูของเธอแล้วก้มลงจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากหวาน
จู่ๆใบหน้าคมก็จริงจังขึ้นมา ดวงตาสีฟ้ากระจ่างจ้องมองเธออย่างจริงจังก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเข้มๆ
"ถ้าเกิดว่าฉันทำให้เธอเจ็บ เธอต้องบอกฉันทันทีนะ ฉันจะหยุดให้ทันทีโดยไม่มีข้อแม้ ห้ามฝืนตัวเอง เข้าใจมั้ย?"
เมื่อเห็นว่าเฟรินพยักหน้าให้แล้วคาโลจึงค่อยๆจับแก่นกายของตนจ่อเข้าที่ปากทางรักสีหวานแล้วค่อยๆดันเข้าไปช้าๆเพื่อให้เฟรินเจ็บน้อยๆที่สุด เมื่อเขาดันมันเข้าไปจนสุดเฟรินก็เกร็งตัวขึ้นมา ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความจุกจนทำให้คาโลใจเสียเพราะคิดว่าตนทำให้เฟรินเจ็บอีกแล้ว
"เจ็บหรอ? ให้ฉันเอาออกมั้ย?" พูดเสร็จก็ทำท่าจะเอาออกจริงๆจนเฟรินต้องรั้งเอวของร่างสูงไว้ แล้วโอบกอดเขาเพื่อให้ร่างของทั้งคู่แนบสนิทกันมากกว่าเดิม
"ฉันไม่เป็นไร นายขยับเถอะ"
"แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรจริงๆ"
"อื้ม" เมื่อได้รับคำยืนยันจากเฟรินคาโลก็เริ่มขยับเอวทันที เขาค่อยๆขยับแก่นกายเข้าออกอย่างเนิบช้าจนร่างบางเริ่มปรับตัวได้จึงส่งเสียงครางออกมาเบาๆด้วยความพึงพอใจ มือใหญ่บีบคลึงก้นมนตามจังหวะการขยับเอว ปากหยักก็ไม่ปล่อยให้ว่างกลับทำหน้าที่ประสานกับส่วนอื่นๆของร่างกายได้เป็นอย่างดี คาโลปรนเปรอเธอจนรู้สึกมีความสุขเต็มอิ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกราวกับกำลังล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ เมื่อคาโลเริ่มขยับเอวเร็วขึ้นอารมณ์ของเธอก็พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆจนใกล้จะแตะจุดสูงสุด ร่างบางเชิดหน้าแอ่นอกขึ้นก่อนจะใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวกระหวัดเข้าที่สะโพกสอบของคาโลแล้วเด้งตัวขึ้นไปอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง มือบางจิกลงบนไหล่กว้างโดยไม่รู้ตัวเมื่อคาโลเร่งความเร็วขึ้นจนถึงจุดสูงสุด สมองพลันขาวโพลนไปด้วยห้วงแห่งความสุขสมที่สาดซัดเข้ามาจนเธอตั้งตัวแทบไม่อยู่ เฟรินหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะซบหน้าลงบนอกกว้างแล้วยิ้มออกมาเบาๆ
"ขออีกรอบนะ" คาโลก้มลงกระซิบที่ข้างหูของคนในอ้อมกอด
"ไม่เอาหรอก นี่ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวคิลมันก็คงจะกลับมาแล้ว"
"ไม่หรอก ดึกป่านนี้แล้วมันยังไม่กลับก็แสดงว่าคงจะค้างกับเรนอนนั่นล่ะ เถอะนะ นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้กอดเธอ ก่อนหน้านี้ฉันต้องอดกลั้นแทบแย่ ฉันยังไม่หายคิดถึงเธอเลย" มาอีกแล้วเจ้าชายน้ำแข็งโหมดขี้อ้อน แววตาออดอ้อนจากดวงตาสีฟ้านั่นหลอมใจเธอให้ละลายได้ทุกทีสิน่า
"ก็ได้ แต่แค่รอบเดียวจริงๆนะ ไม่งั้นฉันจะไม่ยอมให้นายกอดอีกเลย!" คาโลยิ้มรับก่อนจะอุ้มเฟรินลงจากอ่างล้างหน้าแล้วพาไปที่ฝักบัว คาโลเปิดฝักบัวให้น้ำไหลลงมารดตัวทั้งคู่แล้วก้มลงประทับจูบอันดูดดื่มให้แก่ร่างบางอีกครั้ง ลิ้นร้อนและลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร คาโลพลิกตัวของเฟรินให้หันหน้าเข้าหากำแพงก่อนจะถูไถส่วนแข็งขืนกับช่องทางรักของร่างบางไปมาก่อนจะค่อยๆสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในตัวเธอจนมิด ครั้งนี้เฟรินปรับตัวได้เร็วขึ้นมากทำให้คาโลเริ่มขยับทันที ปากหยักซุกไซร้ลงบนซอกคอขาวและฝากรอยสีกุหลาบไว้จนทั่ว มือหนารั้งใบหน้าของร่างบางให้หันมาหาและประทับจูบลงบนริมฝีปากอิ่มอีกครั้งอย่างร้อนแรงไม่แพ้กับช่วงล่างที่ยังคงขยับอย่างต่อเนื่อง สายน้ำที่หลั่งไหลลงบนตัวมิอาจดับความร้อนแรงของพวกเขาได้เลย คาโลกระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆจนเฟรินเริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ แข้งขาอ่อนระทวยไปกับความเสียวกระสันที่ได้รับจนต้องเอามือยันกำแพงไว้เพื่อกันไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกองกับพื้นในขณะที่คาโลยังคงสอดใส่เข้ามาลึกและแรงขึ้นๆจนเฟรินต้องใช้มือข้างหนึ่งดันสะโพกของเขาไว้แต่คาโลกลับจับมือของเธอไพล่หลังเพื่อจะได้กรระแทกได้ถนัดขึ้น
"อื้อออออออออ คาโล ฉะ ฉัน เสียวววววววว อ๊ะ!" คาโลรั้งร่างบางขึ้นมาแนบอก อ้อมแขนแกร่งรัดร่างบางทั้งร่างไว้แนบลำตัวแล้วรัวสะโพกเข้าหาไม่ยั้งจนเฟรินร้องครางไม่เป็นภาษา เพราะไม่ได้มีอะไรกันนานทำให้ครั้งนี้คาโลปลดปล่อยช้าและยากกว่าปกติ คาโลยังคงรัวสะโพกหาเฟรินอยู่ซักพักจนในที่สุดก็ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางรักของร่างบางจนล้น น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อนกลับลงมาตามเรียวขาบางเป็นทางยาว เฟรินหมดแรงที่จะทรงตัวต่อได้ไหว ขาสั่นจนเกือบจะล้มลงไปนั่งบนพื้นแต่ดีที่คาโลพยุงตัวเอาไว้ได้ก่อน คาโลอุ้มเฟรินขึ้นก่อนจะพาเดินไปที่อ่างอาบน้ำแล้วเปิดน้ำอุ่นจนเต็มอ่างก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งซ้อนทางด้านหลังของร่างบางแล้วดึงร่างบางเข้ามาไว้แนบอก
"อื้ออออ ไม่เอาแล้วนะคาโลลล" ร่างบางงอแงออกมาด้วยความเหนื่อยล้าแล้วพยายามขืนตัวออกจากอกแกร่งเพราะคิดว่าคาโลยังไม่ยอมจบ
"ไม่เอาก็ไม่เอาสิ ฉันแค่จะทำความสะอาดให้เฉยๆ ไม่ได้จะทำอะไรซักหน่อย" เมื่อรู้ว่าคาโลจะทำตามสัญญาเฟรินจึงเอนตัวกลับไปพิงอกแกร่งตามเดิมพร้อมหลับตาพริ้มเมื่อคาโลเริ่มต้นทำความสะอาดร่างกายให้
"ขอโทษนะ เธอคงเหนื่อยมากเลยล่ะสิ"
"ใช่ เหนื่อยมากกกกก เหนื่อยจนทำการบ้านไม่ไหวแล้ว เพราะฉะนั้น นาย ในฐานะที่เป็นคนทำให้ฉันเหนื่อย ทำการบ้านให้ฉันเลยด้วย" คำกล่าวของหัวขโมยจอมเจ้าเล่ห์เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าชายคนเก่งได้เป็นอย่างดี คาโลทำการสะอาดให้ร่างบางจนหมดจดก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างบางเอาไว้แล้วอุ้มไปที่เตียงของตน เขาจัดการนำเสื้อผ้าของเฟรินที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นรูมเมทกันมาใส่ให้ก่อนจะห่มผ้าห่มให้สาวน้อยที่พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับไปทันที
"ราตรีสวัสดิ์ หัวขโมยจอมยุ่งของฉัน" คาโลกระซิบเบาๆแล้วก้มลงจุมพิตบนหน้าผากมนก่อนจะนำการบ้านทั้งหมดที่ค้างอยู่ของแม่ตัวดีมาจัดการให้
"เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเป็นอันตกลงว่าตำแหน่งของผู้เดินหมากในการแข่งกระดานเกียรติยศของชั้นปีเราคือเฟริน เดอเบอโรว์ เธอไม่ขัดข้องอะไรใช่ไหมเฟริน เฟริน!" เสียงเจ้าหญิงมาธิลดาที่ตะโกนเรียกไม่สามารถทำให้หัวขโมยเจ้าของชื่อตื่นจากการฝันกลางวันได้ ร้อนถึงแองเจลีน่า โรมานอฟต้องเขวี้ยงคทาเจ้าเก่าลงโป๊กพอดีเป๊ะที่กลางกระหม่อมของคนขี้เซาจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาโวยวายลั่นห้องนั่งเล่นรวม
"โอ๊ย! อะไรของเธอเนี่ยยัยแองจี้!"
"ก็จะอะไรล่ะ คนเขาประชุมกันอยู่เธอมาหลับหน้าตาเฉยขนาดนี้ได้ยังไงห้ะ!"
"เมื่อคืนมัวแต่ทำอะไรล่ะถึงได้อ่อนเปลี้ยเพลียแรงอย่างกับคนอดหลับอดนอนขนาดเนี้ย" เสียงเหน็บแนมดังมาจากคิล ฟีลมัสเพื่อนซี้ที่กำลังส่งสายตาแพรวพราวอย่างคนรู้ทันมาให้ทำเอาเฟรินหน้าขึ้นสีด้วยความอายก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อหันเหความสนใจจากทุกคนที่กำลังมองมาที่เธออย่างสงสัย
"ว่าแต่ปลุกฉันซะแรงขนาดนี้มีอะไรหรอ?"
"พวกเราลงมติกันว่าใจให้เธอเป็นคนเดินหมากกระดานเกียรติยศของชั้นปีเรา เธอตกลงมั้ย?" มาธิลดากล่าวซ้ำอีกครั้ง
"อ้อ! ได้สิ ไม่มีปัญหา เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะเชสมาสเตอร์ออฟบารามอสคนนี้จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน ศึกครั้งนี้ชัยชนะจะต้องตกเป็นของป้อมอัศวิน!!" กล่าวพร้อมชูกำปั้นขึ้นไปในอากาศเรียกเสียงโห่ร้องด้วยความหึกเหิมให้ดังขึ้นรอบตัว
"รู้ใช่มั้ย ว่าคนเดินหมากของป้อมอัศวินปีสี่ครั้งนี้คือใคร"
"เฟริน เดอเบอโรว์ หรือเฟลิโอน่า เกรเดเวล ธิดาแห่งความมืด"
"ใช่ เธอเคยเอาชนะเจ้าแห่งศาสตร์มืดในหมากกระดานเกียรติยศนัดประวัิติศาสตร์มาแล้ว ฝีมือการเดินหมากเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว ลูกไม้แพรวพราวอย่าบอกใคร เพราะฉะนั้นถ้าสู้กันตรงๆโอกาศที่เราจะแพ้จะสูงมาก"
"ท่านหมายความว่า......"
"เล่นงานที่จุดอ่อนของศัตรู จุดอ่อนของเฟลิโอน่า เกรเดเวลคือคาโล วาเนบลีคู่หมั้นของเธอ ทำยังไงก็ได้ให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สั่นคลอนหรือขาดสะบั้นได้เลยยิ่งดี นักรบที่ขาดกำลังใจก็เหมือนนกปีกหัก ถ้าเราทำสำเร็จเราจะสามารถบั่นทอนกำลังฝ่ายนั้นได้มากทีเดียว แล้วชัยชนะจะไปไหนเสียได้"
"เข้าใจแล้วครับ" เฟริน เดอเบอโรว์เธอเสร็จฉันแน่ หึหึ