ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ทวิตเตอร์ @Bam_Bam1A
ตลาดใจกลางเมืองหลวงของเวนอล ณ บัดนี้คึกคักยิ่งนักเนื่องด้วยในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสถาปนาเจ้าชายชาเบรียนที่ผู้คนต่างคิดว่าสิ้นพระชนม์ไปแล้วขึ้นเป็นจักรพรรดิ ทั้งเหล่าประชาชนและอาคันตุกะจากต่างเมืองจึงพากันเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อมาร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีกับจักรพรรดิพระองค์ใหม่แห่งเวนอล
เพื่อนๆในป้อมอัศวินต่างพร้อมใจกันมาร่วมแสดงความยินดีกับโร เซวาเรสกันอย่างพร้อมหน้า เจ้าหัวขโมยจอมวางแผนจึงชักชวนว่าที่จักรพรรดิให้ออกไปสังสรรค์ส่งท้ายกับเพื่อนๆในฐานะสามัญชนเป็นครั้งสุดท้าย
"เห้อออออ ฉันมันพูดผิดซะที่ไหนล่ะ ก็บอกแล้วว่าแม้แต่ขอทานยังร่วมเรียนกับเจ้าชายได้ ขโมยก็อาจเป็นพระราชาได้ ดูนี่สิ เผลอไม่ทันไรขอทานกลายเป็นจักรพรรดิไปซะแล้ว อีกหน่อยหัวขโมยอย่างฉันก็อาจจะได้เป็นไฮคิงก็ได้ ใครจะรู้" เจ้าหัวขโมยตัวดีหัวเราะร่วนกับคำพูดของตนทำให้เพื่อนที่เหลือต้องส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเต็มทน
"ต่อให้เธอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเดมอสกับบารามอส แต่ยังไงเธอก็ไม่มีทางได้เป็นไฮคิงหรอก" คำพูดยั่วเย้าจากว่าที่จักรพรรดิแห่งเวนอลเรียกให้เฟรินฉุนกึกขึ้นมาทันที
"ทำไม! หรือว่าเพราะแกเห็นฉันเป็นผู้หญิงใช่มะ ถึงได้ดูถูกกันนัก!"
"เรื่องนี้น่ะมันไม่เกี่ยวกับเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรอกนะ แต่เรื่องมันอยู่ที่ว่าชายาของเจ้าชายรัชทายาทคงจะไม่สามารถเป็นคิงของเมืองอื่นได้" คำพูดซับซ้อนวกวนแต่ทุกคนดูจะเข้าใจดีว่าโรกำลังพูดถึงใครอยู่จึงพากันโห่ร้องล้อเลียนจนว่าที่ชายาของเจ้าชายรัชทายาทหน้าแดงไปหมด
"ชายงชายาอะไร เรื่องอะไรจะต้องลดตำแหน่งตัวเองในเมื่อฉันสามารถเป็นคิงได้ล่ะ พวกแกน่ะไม่รู้อะไร เป็นคิงน่ะ เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝนเลยนะเว้ย!" ด้วยความเขินทำให้เฟรินต้องหาเรื่องมาพูดกลบเกลื่อนไปเรื่อย
"ช่าย แต่นอกจากจะเรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝนแล้ว คราวนี้แกคงจะเรียกพายุหิมะได้อีกห่าใหญ่ เพราะดูท่าเจ้าชายรัชทายาทจะไม่พอพระทัยซะแล้ว แกจัดการเองละกันนะเฟริน พวกฉันขอตัวไปเดินชมตลาดก่อนดีกว่า" พูดจบ เจ้าเพื่อนรักนักฆ่าแห่งซาเรสก็รีบจ้ำอ้าวไปกับเพื่อนๆคนอื่นทันที ทิ้งให้เจ้าคนปากพล่อยต้องยืนร้อนๆหนาวๆอยู่กับเจ้าชายน้ำแข็งที่บัดนี้กำลังแผ่ไอเย็นให้เสียวสันหลังวาบๆ เฟรินตัดสินใจว่าขืนยังอยู่ต่อ มีหวังถูกจับทำน้ำแข็งใสแน่จึงรีบวิ่งตามเพื่อนๆไป แล้วได้แต่หวังว่าถ้าปล่อยไว้ซักพักคาโลคงจะหายโกรธเอง
"เห้ย! พวกแกทิ้งกันอย่างนี้ได้ไงวะ รอด้วยซิโว้ยยยยย!!!"
งานเลี้ยงส่งท้ายของขอทานที่กำลังจะกลายเป็นจักรพรรดิกินเวลายาวนานกว่าที่คิดเมื่อเจ้าหัวขโมยตัวตั้งตัวตีไม่ยอมเลิกง่ายๆ หลังจากพากันไปกินเลี้ยงในตลาดจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็กลับมาฉลองกันต่อในวังอีก
"แหม ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าเวนอลนอกจากจะมีเพชรพลอยงาม หญิงสาวสวยแล้วสุราก็ยังเลิศรสอีกด้วย ฉันละอิจฉาแกจริงๆว่ะโร เอิ๊ก" เฟรินที่ดื่มสุราเข้าไปจนเริ่มเมาได้ที่พูดไปสะอึกไปเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆที่ก็เมามายไม่ต่างกันได้ดีนัก
"นี่เฟริน เธอลืมตัวไปรึเปล่าว่าตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงแล้วนะ จะอิจฉาโรที่เวนอลมีสาวสวยไปทำไม" เสียงค่อนขอดดังมาจากแองเจลิน่า โรมานอฟ เดอะวิทช์ ออฟ วิทช์
"ฮ่าๆๆๆ นั่นสิ แต่ยังไง เอิ๊ก มันก็ยังน่าอิจฉาอยู่ดีนั่นแหละ ได้เป็นจักรพรรดิของเมืองใหญ่ที่ร่ำรวยขนาดนี้ เอิ้ก ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะเพคะะะะะะะะ" เฟรินลากเสียงยาวที่ถูกดัดให้หวานอย่างออดอ้อนก่อนจะแกล้งทำเป็นเข้าไปซบอกโรแล้วเอาหน้าถูไถไปมา
การกระทำของเฟรินทำให้ทุกคนอึ้งราวกับจะสร่างเมาไปชั่วขณะ ทุกสายตาต่างหันไปหาบุรุษเพียงผู้เดียวที่ยังไม่เมาโดยอัตโนมัติ คาโลใช้สายตาเย็นเยียบจ้องเขม็งไปที่เจ้าตัวดีที่ยังซบอยู่บนอกโรอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวทำให้คนโดนซบต้องรีบดันตัวเฟรินออกแทบไม่ทัน
"ฉันว่าเธอคงเมาแล้วล่ะเฟริน ไปนอนดีกว่านะ"
"ใครว่าฉันเมากัน แค่กึ่มๆเท่านั้นแหละน่า ระดับเฟริน เดอเบอโรว์แล้วไม่มีคำว่าเมาเด็ดขาด!" ว่าพลางก็ลุกขึ้นยืนกระทันหันทำให้ซวนเซจนล้มลงไปทับโรอีกรอบทำให้โรต้องรีบรับตัวไว้อย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะช่วยพยุงให้ลุกขึ้น
"ยังจะมีหน้ามาพูดว่าไม่เมาอีก ยืนจะไม่อยู่อยู่แล้ว ไปนอนเถอะไป เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ม่ายยยยต้อง ฉันเดินไปเองได้น่าาา " พูดจบก็เริ่มเดินโซซัดโซเซออกไปทันที แต่ยังไม่ทันจะเดินไปถึงไหนก็สะดุดขาตัวเองจนเกือบจะล้มคะมำหน้ากระแทกพื้นถ้าไม่ติดว่ามีอ้อมกอดของใครคนนึงเข้ามารับไว้ได้ซะก่อน
"อวดเก่งไม่เข้าเรื่อง" คาโลกล่าวด้วยเสียงเย็นๆติดจะรำคาญหน่อยๆแต่สายตาที่มองมายังร่างในอ้อมกอดกลับมีความอบอุ่นอย่างประหลาดเรียกร้อยยิ้มจากเพื่อนๆที่มองอยู่ได้เป็นอย่างดี
คาโลเดินพยุงเฟรินมาจนถึงห้องพักรับรองอันสวยงามที่วิเวียนจัดไว้ให้พี่หญิงของเธอเป็นพิเศษ มือใหญ่ค่อยๆบรรจงวางเฟรินลงบนเตียงแล้วทำท่าจะผละออกมาแต่ติดที่ว่าโดนมือเล็กคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเอาไว้เสียก่อน
"โกรธฉันหราาา" เสียงยานคางที่เอ่ยขึ้นมาทำให้รู้ได้ว่าเจ้าตัวพูดด้วยความเมา สายตาที่เพ่งมองมานั้นราวกับพยายามมองให้ชัดว่าสีหน้าของเจ้าชายคนสำคัญตอนนี้เป็นยังไง คาโลไม่ตอบแต่กลับพยายามดันมือออกจากการกอบกุมของหญิงสาวก่อให้เกิดความไม่พอใจจนเฟรินต้องกระชากคนตัวสูงลงมานอนบนเตียงข้างๆกันแล้วพลิกตัวขึ้นนั่งคร่อมทันทีเพื่อกันไม่ให้หนีไปไหนได้
"เจ้าชายบ้าอะไรขี้งอนชะมัด! ไหนบอกซิว่าต้องทำยังไงนายถึงจะหายโกรธชั้นห้ะ ไอ้น้ำแข็งงี่เง่า!"
คาโลเบือนหน้าหนีสาวน้อยบนร่างไม่ใช่เพราะยังโกรธแต่เพราะกำลังพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองต่างหาก สาวน้อยเหนือร่างเขาขณะนี้กำลังเมามายได้ที่ เสื้อตัวโคร่งที่สวมใส่อยู่ร่นลงมาจนเห็นลาดไหล่เนียน กระโปรงตัวบางก็เลิกขึ้นไปจนเห็นขาอ่อน
"ลุกออกไปจากตัวฉันได้แล้ว เฟริน"
เฟรินชะโงกหน้าเข้ามาใกล้คาโลก่อนจะเริ่มคลอเคลียไปทั่วซอกคอและอกกว้างไม่ต่างจากแมวน้อยที่คลอเคลียเจ้าของพลางเอ่ยอย่างออดอ้อนน่าเอ็นดู
"ฉันจะไม่ลุกไปไหนทั้งนั้นจนกว่านายจะหายโกรธฉัน หายโกรธฉันเถอะนะคาโล น้าน้าน้าาาาาา"
พูดอย่างเดียวไม่พอยังขย่มตัวไปมาทั้งที่สะโพกอิ่มนั่งทับกลางลำตัวของคาโลอยู่ทำให้คาโลต้องกัดฟันกรอดทันที
"ฉันบอกให้ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้ไง ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ!"
เฟรินสะบัดหัวส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น ปากอิ่มเชิดขึ้นอย่างคนเอาแต่ใจกล่าวปฏิเสธไม่หยุด
"ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่ลุกจนกว่านายจะหายโกร...อ๊ะ!" พูดยังไม่ทันจบคำดีร่างบางถูกพลิกกลับเข้ามาอยู่ใต้ร่างใหญ่ทันที คาโลประกบจูบลงไปที่ปากอวบอิ่มอย่างไม่รอช้าแล้วเริ่มดูดเม้มจนปากอิ่มบวมแดงไปหมด ลิ้นร้อนกระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างโหยหาไล้เลียไปทั่วโพรงปากจนเฟรินหายใจไม่ทันจึงค่อยๆผละออกมาเพื่อให้สาวน้อยได้พักหายใจก่อนจะหมดลมไปเสียก่อน แต่ยังไม่ทันจะได้หอบเอาอากาศเข้าปอดเฟรินก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมือซนเริ่มซุกไซร้เข้าไปใต้กระโปรงของเธอทำให้คนเมาเริ่มได้สติรีบร้องห้ามทันที
"อย่านะคาโล!! ไม่เอานะ ฉันกลัว" มือบางจับข้อมือหนาไว้แล้วส่ายหัวไปมา เธอยังจำได้ดีถึงความเจ็บปวดและทรมานจากครั้งแรก แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหลเอาเสียดื้อๆ
"ก็เธออยากรู้เองไม่ใช่หรอ ว่าทำยังไงฉันถึงจะหายโกรธ ก็นี่ไง สิ่งที่ฉันต้องการให้เธอทำ"
"แต่ว่า........"
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น! ฉันเตือนเธอแล้วนะ แต่เธอไม่ฟังเอง!" กล่าวจบก็ก้มลงซุกไซร้ที่ซอกคอขาวทันที ถ้อยคำเหมือนคำสั่งจากผู้ที่ถนัดออกคำสั่งทำให้เฟรินยิ่งกลัวหนักเข้าไปใหญ่จนทำให้ร่างบางเริ่มสั่นไปทั้งร่าง คาโลเห็นดังนั้นก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่าเฟรินยังเข็ดจากคราวที่แล้วไม่หาย
"ถ้าเธอทำตัวดีๆ ฉันสัญญาว่าฉันจะอ่อนโยนและทะนุถนอมเธอ ตกลงมั้ย" เสียงทุ้มนุ่มชวนให้ใจอ่อนยวบทำให้เฟรินต้องพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้
คาโลค่อยๆก้มลงจูบเฟรินอย่างอ่อนโยน ลิ้นสากค่อยๆชำแรกเข้าไปเก็บความหวานจากโพรงปากอุ่น ลิ้นเล็กของเฟรินตอบรับอย่างไม่ประสานักแต่กลับทำให้คาโลมีความสุขยิ่งกว่าหญิงใดใดที่เขาเคยจูบด้วย ลิ้นทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกันไปมาจนน้ำใสๆไหลลงมาตามมุมปากของร่างบางเรียกให้ปากหยักต้องตามมาเก็บชิมไว้ทุกหยาดหยดอย่างเสียดายไม่อยากให้พลาดไปซักหยด ปากเรียวไล้ลงไปเรื่อยๆและฝากรอยไว้ในทุกๆที่ที่ผ่าน มือหนาทำหน้าที่ประสานกับปากได้เป็นอย่างดีโดยการกำจัดอาภรณ์ที่ปิดบังร่างสวยไว้ให้พ้นทาง รู้ตัวอีกทีทั้งร่างของเฟรินก็ไม่เหลือเสื้อผ้าอยู่เลยซักชิ้น ใบหน้าของคาโลก้มอยู่เหนือส่วนบอบบางของหญิงสาว ลิ้นร้อนค่อยๆไล้เลียไปตามกลีบดอกไม้และแทรกลึกเข้าไปยังใจกลางของบุปผางามสร้างความรัญจวนใจแก่หญิงสาวยิ่งนัก เฟรินได้แต่เชิดหน้าขึ้นสูงและกัดปากอย่างแรงเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ดิบที่เริ่มพลุ่มพล่านขึ้นสูงเรื่อยๆ มือเรียวจิกลงบนผ้าปูที่นอนจนยับย่นไปหมด เสียงหวีดร้องดังขึ้นเบาๆตามมาด้วยการกระตุกเกร็งน้อยๆเมื่ออารมณ์ของสาวน้อยพุ่งขึ้นจนถึงจุดสูงสุด คาโลค่อยๆถอนลิ้นออกมาก่อนจะจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองให้ออกไปพ้นตัว คาโลมองไปยังสาวน้อยที่นอนหอบหายใจแรงอยู่บนเตียงด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินไปทั้งตัว มือใหญ่ดึงรั้งสะโพกของร่างบางเข้ามาใกล้แล้วจับแก่นกายที่กำลังพองโตของตนเข้ามาจ่อที่ปากทางรักทำให้เฟรินต้องรีบเบือนหน้าหนี ท่าทางเขินอายกับแก้มใสที่ขึ้นริ้วแดงๆของสาวน้อยปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวของเจ้าชายน้ำแข็งให้พุ่งขึ้นสูงจนลิบลิ่วอยากยัดเยียดความเป็นชายเข้าไปให้สุดแล้วกระแทกกระทั้นจนกว่าจะพอใจแต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้เพราะเขาได้ให้สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะอ่อนโยนกับเธอ
"เฟริน ฉันขอนะ" เสียงแหบพร่าของเจ้าชายน้ำแข็งที่ดังขึ้นยิ่งทำให้คนหน้าแดงยิ่งแดงขึ้นไปอีก ใครบอกให้มันมาขอกันซึ่งๆหน้าแบบนี้เล่าไอ้บ้า แล้วจ่อมาขนาดนั้นถ้าบอกว่าไม่ให้มันคงจะยอมหรอกนะ! ร่างบางได้แต่ต่อว่าอยู่ในใจเพราะยังไม่ทันได้ตอบรับร่างหนาก็สอดความเป็นชายเข้ามาทีเดียวครึ่งลำแล้วแช่ค้างไว้อย่างนั้น รอซักพักจนเริ่มรู้สึกว่าสาวน้อยใต้ร่างปรับตัวได้แล้วจึงดันเข้าไปจนสุดจนเฟรินต้องเบ้หน้า ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกและคาโลก็อ่อนโยนกว่าครั้งแรกมากแต่มันก็ยังเจ็บอยู่ไม่ใช่น้อย คาโลเริ่มขยับสะโพกช้าๆทำให้เฟรินเริ่มรู้สึกดีจึงส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
"อื้มมมมม คาโลลล" เสียงครางหวานจากหญิงสาวอันเป็นที่รักทำให้ชายหนุ่มยิ่งได้ใจสาวสะโพกแรงขึ้นๆเรื่อยๆจนร่างบางสั่นโยกไปทั้งร่าง เสียงครางที่ดังออกมากระท่อนกระแท่นจนจับใจความไม่ได้แต่ร่างสูงก็ยังไม่มีทีท่าที่จะลดความเร็วลงมีแต่แรงขึ้นเรื่อยๆ
"อ๊ะ คา อื้อ โล หนะ ไหน อ๊าาา บอก ว่า จะ อึ้ก จะ ทะนุ ถนอม ฉัน อ๊ะ ไง เล่า!"
ร่างสูงที่ตอนนี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปกระชากร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วรัวสะโพกเข้าหาอย่างรุนแรงจนเฟรินหัวสั่นหัวคลอนไปหมด ความเสียวซ่านที่ได้รับทำให้ร่างบางต้องหาทางระบายด้วยการจิกนิ้วลงบนแผ่นหลังกว้างจนเป็นรอยไปทั่ว เลือดที่ซึมตามรอยแผลที่เกิดจากฝีมือของหญิงสาวนอกจากจะไม่ทำให้ร่างสูงรู้สึกเจ็บปวดแล้วยังสร้างความความพึงพอใจให้แก่ร่างสูงได้ดียิ่งนัก ร่างสูงรัวสะโพกเร็วและลึกกว่าเดิมจนร่างบางต้องกอดคอของคาโลไว้แน่นแล้วกรีดร้องออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงความอุ่นวาบจากน้ำรักที่ฉีดเข้ามาในตัว คาโลปลดปล่อยในตัวของเฟรินอย่างมากมายจนบางส่วนไหลย้อนกลับออกมาเปรอะเปื้อนต้นขาเรียวและหน้าท้องแกร่งเต็มไปหมด
"เฟริน เฟริน หลับไปแล้วหรอเนี่ย" คาโลเขย่าตัวร่างบางบนอกเบาๆและพบว่าเฟรินหลับไปแล้วเรียบร้อย คงจะเพราะความเพลียบวกกับความเมาจึงทำให้สลบไปทันทีเมื่อเสร็จกิจ
"งืมมมมมม วิ่งไปสิโรซี่เจ้าม้าโง่ วิ่งสิวิ่งๆๆๆๆ" เสียงโวยวายดังจากคนที่คิดว่าหลับไปแล้วเรียกให้คาโลขมวดคิ้วมุ่นเพราะนอกจากเจ้าตัวจะพูดทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่แล้วยังขย่มตัวขึ้นลงราวกับกำลังขี่ม้าอยู่จริงๆทำให้แก่นกายที่ยังคาอยู่ในตัวของเจ้าหล่อนเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง
"เฟริน ตื่นสิตื่น!!" คาโลพยายามเขย่าตัวของเจ้าคนละเมอให้ตื่นขึ้นมารับผิดชอบการกระทำของตัวเองแต่ดูเหมือนเจ้าคนขี้เซาจะหลับลึกไปเสียแล้วเพราะปลุกยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย คาโลได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะค่อยๆถอนแก่นกายที่ตอนนี้กลับมาพร้อมสู้ศึกอีกครั้งออกจากร่างบางแล้วค่อยๆวางเฟรินลงบนหมอนก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำไปจัดการกับตัวเองทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น