ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ทวิตเตอร์ @Bam_Bam1A
การเรียนปีสองได้จบลงไปแล้วพร้อมกับการสอบที่หนักหน่วง เฟรินจึงชวนคิลเพื่อนซี้นักฆ่าไปเปิดหูเปิดตาตระเวนรอบเอเดน โดยมีโร เซวาเรสติดสอยห้อยตามไปด้วยอย่างกระตือรือร้น และอีกหนึ่งบุรุษที่ถึงแม้จะไม่อยากไปซักนิดแต่ก็ต้องตามไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะไม่อยากปล่อยให้แม่ตัวดีคลาดสายตา
คาโล วาเนบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาลถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อแม่ตัวดีเริ่มพูดจ้อไม่หยุดถึงของดีขึ้นชื่อของเมืองเวนอล
"นี่คิล แกรู้มั้ยว่าเวนอลนี่นอกจากจะมีเพชรพลอยสวยงามมากมายแล้วอีกอย่างที่สวยไม่แพ้กันเลยก็คือผู้หญิงนี่ล่ะ! หอโคมเขียวของที่นี่ขึ้นชื่ออย่าบอกใคร แกไปเห็นกับตาเองก็จะรู้!" พูดจบก็จัดการโอบคอเพื่อนรักคิล ฟีลมัสและโร เซวาเรสแล้วดึงเข้ามาใกล้ทันที
"นี่ ถ้าพวกแกยังไม่มั่นใจ ไม่ต้องกลัวไปฉันจะสอนให้แกเอง รับรอง สาวๆติดพวกแกตรึมแน่นอน!!" ไอ้เจ้าคนที่ยังไม่เจียมตัวว่าตอนนี้ตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วแถมยังมีศักดิ์เป็นถึงเจ้าหญิงแห่งบารามอสกับธิดาแห่งความมืดของเดมอสว่าพลางเริ่มใช้นิ้วลูบไล้ไปยังใบหน้าของคิลเพื่อนรักแล้วเริ่มสาธยายวิธีมัดใจหญิงไปพลาง
"เริ่มแรก แกต้องทำให้เคลิ้มก่อน ค่อยๆลูบไล้ใบหน้าแล้วเลื้อยต่อไปทั่วเรือนร่างแบบนี้" ว่าพลางก็หันไปอีกข้างเอามือลูบลงไปตามลำคอและหน้าอกของโร ทำให้เจ้าคนที่เคยแอบอ้างว่าเป็นขอทานแห่งทริสทอร์ต้องกลืนน้ำลายเอื้อก นัยน์ตาสีเขียวตวัดไปมองยังเจ้าชายน้ำแข็งที่ตอนนี้กำลังส่งรังสีอำมหิตเย็นยะเยือกจนคนมองขนลุกวาบแล้วรีบปัดมือแม่สาวน้อยตัวดีออกทันที
"เอ่อ พะ พอแล้วๆ ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ต้องอธิบายแล้วก็ได้"
"เห้ย ได้ไง เรียนไม่จบหลักสูตรพาสาวขึ้นไปไม่ถึงสวรรค์ไม่รู้นะเว้ย!"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพอถึงเวลาฉันก็ทำได้เองแหละ"
"ไม่เชื่อหรอก เอางี้ งั้นเดี๋ยวฉันจะสอนทีเด็ดให้เลยแล้วกัน ดูฉันนะ" คราวนี้เฟรินเปลี่ยนมาใช้คิล ฟีลมัสเพื่อนรักเป็นตัวอย่างสาธิต มือสวยค่อยๆประคองใบหน้าของเพื่อนรักแล้วลูบไล้เบาๆก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปแล้วขบเม้มเบาๆที่ข้างใบหูทำให้คิลถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เฟรินค่อยๆไล้ริมฝีปากมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงริมฝีปากของคิลอยู่แล้ว แต่จู่ๆพายุหิมะก็ก่อตัวขึ้นในห้องโดยไม่ทราบสาเหตุทำให้คิลที่กำลังเคลิ้มสะดุ้งเฮือก
นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างบัดนี้ราวกับจะลุกเป็นไฟ กลิ่นอายแห่งความตายแผ่กระจายออกมาจากร่างสูงอย่างรุนแรงจนทุกคนสัมผัสได้
"แค่นี้ก็น่าจะมากพอที่จะให้คิลกับโรมัดใจสาวๆได้แล้วนะ พวกนายสองคนไปเถอะ ส่วนเธอ มากับฉันนี่!" เสียงเย็นเยียบกล่าวพร้อมกระชากแขนของเฟรินออกจากห้องไป ทิ้งให้คิลกับโรมองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น เจ้าชายน้ำแข็งคนนี้ เวลาปกติก็สงบเย็นเยือกราวน้ำแข็ง แต่เวลาโกรธราวกับไฟบรรลัยกัลป์ที่สามารถเผาทุกสิ่งให้วอดวายได้ เป็นไปได้จะไม่ขอทำให้เจ้าชายผู้นี้โกรธเป็นอันขาด
เสียงประตูปิดดังปังตามมาด้วยร่างของเฟรินที่ถูกโยนลงบนเตียงอย่างไม่ปราณี
"โอ้ย เจ็บนะโว้ย เป็นบ้าอะไรของแกห้ะ โยนมาได้!"
"ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรอ สนุกมากมั้ย ยั่วผู้ชายแบบนั้นน่ะ"
"ยั่วเย่ออะไร ไอ้นั่นเค้าเรียกว่าสอนต่างหาก ฉันก็แค่สาธิตให้พวกมันดูในฐานะของคนที่ช่ำชองกว่าก็เท่านั้น"
"อ้อ ช่ำชองงั้นหรอ ถ้าอย่างนั้น แสดงให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าช่ำชองขนาดไหน!"พูดจบคาโลก็ก้มลงประกบปากอิ่มทันทีด้วยความดุดัน ปากเรียวพยายามขบเม้มและดูดดุนปากอิ่มอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนชอนไชเข้าไปในโพรงปากอิ่มแล้วไล้เลียดูดกลืนน้ำหวานจากสาวน้อยอย่างไม่รู้จักพอ เฟรินที่ทั้งตกใจและกลัวพยายามดันตัวของคาโลออกแต่ก็ไม่เป็นผล แม้ตอนเป็นผู้ชายแรงเขาก็สู้คนร่างใหญ่ตรงหน้าไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้เป็นหญิงมีหรือจะทัดทานไหวจึงได้แต่ครางอืออาในลำคอเป็นการประท้วง
คาโลถอนจูบออกเมื่อรู้สึกว่าสาวเจ้าจะหมดลมหายใจแล้วทำให้เฟรินรีบหอบอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอดในทันที
"หึ ไหนบอกว่าช่ำชองไง แค่จูบยังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ" คำพูดดูถูกจากร่างสูงเรียกเลือดให้ซับที่พวงแก้มของสาวน้อยได้เป็นอย่างดี ก็ใช่น่ะสิ เขาจะไปจูบเป็นได้ยังไงในเมื่อในชีวิตนี่ยังไม่เคยจูบใครเลยด้วยซ้ำ แล้วไอ้ที่โม้ไปทั้งหมดนั่นก็เรื่องโกหกทั้งเพ ก็แค่อยากแกล้งไอ้คนชอบทำเป็นเย็นชาเป็นก้อนน้ำแข็งก็เท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าภายใต้ก้อนน้ำแข็งจะมีลาวาเดือดปุดๆพร้อมปะทุอยู่ขนาดนี้กันเล่า!
"ไหนเก่งนัก ลองยั่วฉันอย่างที่ยั่วไอ้พวกนั้นเมื่อกี๊ซิ แล้วมาลองดูว่าจะมัดใจฉันได้รึเปล่า" ว่าพลางคาโลก็เริ่มถอดเสื้อออกทำให้เห็นแผงอกขาวจัดที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เฟรินใช้โอกาสที่คาโลกำลังเผลองัดวิชาตีนเบาประจำตัวหัวขโมยออกมาใช้ทันที เธอวิ่งจะไปถึงประตูอยู่แล้วแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆประตูก็ถูกน้ำแข็งปิดทับไว้จนไม่สามารถออกไปไหนได้ คาโลเดินมาอุ้มเฟรินขึ้นพาดบ่าก่อนจะทุ่มลงไปบนเตียงอีกครั้งแล้วตามมาทาบทับทันทีอย่างไม่เปิดโอกาสให้หนีไปไหนได้อีก
"จะหนีไปไหนล่ะ! เธอยังไม่ได้สาธิตให้ฉันดูเลยนะ ต้องทำยังไงนะ ลูบไล้ใบหน้าแบบนี้ใช่มั้ย" มือเรียวลูบไล้ไปตามใบหน้าของเฟรินเรื่อยไปยังลำคอระหงแล้วกระชากเสื้อตัวบางออกอย่างรุนแรงทำให้เฟรินสะดุ้งเฮือก
"ฮึก ไม่นะคาโล อย่าทำแบบนี้เลยนะ" เฟรินอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร นัยน์ตาสีน้ำตาลสุกใสบัดนี้กลับมีน้ำเอ่อคลออยู่จนล้น ฝ่ามือบางดันอยู่ที่หน้าอกแกร่ง
"ทำไม! ทีกับฉันละไม่ยอม พอทีกับไอ้พวกนั้นละยั่วได้ยั่วดี ห้ะ!" ความโมโหทำให้สติขาดสะบั้น คาโลก้มลงบดเบียดริมฝีปากกับปากอิ่มอย่างรุนแรงจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือด มือแกร่งบีบคลึงทรวงอกอิ่มอย่างรุนแรงจนเฟรินเผลอครางออกมาด้วยความเจ็บปนเสียวซ่าน มือใหญ่บีบคลึงต่ำไปเรื่อยๆจนถึงจุดอ่อนไหวแล้วแทรกนิ้วเข้าไปทีเดียวสองนิ้ว เฟรินสะดุ้งเฮือกรับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในช่องทางที่ไม่เคยถูกล่วงล้ำมาก่อน คาโลเริ่มขยับนิ้วเข้าออกอย่างรุนแรงทันทีจนเฟรินต้องเอานิ้วจิกหมอนไว้แน่น เผลอกัดปากตัวเองจนช้ำไปหมด ภาพที่เห็นสำหรับคาโลตอนนี้มันช่างทำให้เขารู้สึกร้อนที่แก่นกลางกายยิ่งนัก ใจจริงเขาไม่อยากทำแบบนี้เลย เพราะเขารู้ดีว่าเมื่ออยู่บนเตียงตัวเองจะกลายร่างเป็นอีกคนที่แตกต่างจากภาพที่ทุกคนเคยชินโดยสิ้นเชิง เขาจึงพยายามทำตัวเย็นชาเพื่อกันผู้หญิงทุกคนให้ออกห่างจากตน แต่ตอนนี้ กับผู้หญิงคนนี้มันกลับทำให้เขาระงับอารมณ์ไว้ไม่ไหว คาโลถอนนิ้วออกก่อนจะแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่โตกว่าหลายเท่านัก เฟรินงอตัวด้วยความจุกกรีดร้องออกมาสุดเสียงแล้วน้ำตาก็รินไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้
"กรี๊ดดดดด อ้าาาาา คะ คา โล ฮึก อะ เอามันออกไป ฉะ ฉันเจ็บ" มือบางพยายามดันหน้าท้องแกร่งให้ออกห่างจากตัวแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อสะโพกสอบกระแทกเข้ามาจนมิดลำ ความใหญ่โตทำให้เฟรินจุกจนพูดไม่ออก เลือดสาวพรมจรรย์หลั่งออกมาเปรอะเปื้อนย้อมที่นอนสีขาวให้เป็นสีแดงฉาน คาโลเริ่มขยับตัวเข้าออกอย่างรวดเร็วจนร่างบางสั่นไปทั้งร่าง ความเจ็บปวดและความจุกทำให้เฟรินทำอะไรไม่ได้นอกจากส่ายหน้าจนผมสะบัดเต็มหมอนและส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะ
" อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ คะ คา อ้าาาา โลลล ฮึกกก" มือแกร่งช้อนเข้าใต้ข้อพับขาของร่างบางแล้วยกสะโพกอิ่มเข้ารับแรงกระแทกจากสะโพกสอบที่สวนเข้ามาพอดีทำให้แก่นกายเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม
"อื้อออออ มะ มัน ละ อ้ะ ลึก ไปแล้ว อ้าาาา คาโลลลล" เฟรินครางไม่ได้ศัพท์เมื่อคาโลยังคงหยัดสะโพกเข้าหาอย่างรุนแรงและรัวเร็วราวกับพายุ คาโลเร่งจังหวะเร็วขึ้นไปอีกเมื่อรู้สึกว่าใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว มือแกร่งจับขาเรียวให้แยกออกกว้างกว่าเดิมแล้วสวนกระแทกรัวๆแล้วปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวเฟริน มันมากมายจนล้นออกมาตามเรียวขาบาง แต่คาโลก็ยังคงไม่ถอดถอนตัวตนออกจากร่างบาง
เฟรินหอบหายใจแรงราวกับเพิ่งไปวิ่งแข่งมา สภาพตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเพิ่งไปฟัดกับเจ้าหมาสามหัวเคเบลอส ผมเปียกชื้นเหงื่อแนบลู่ไปกับใบหน้า ริมฝีปากอิ่มบวมแดงและมีเลือดซิบ ตามเนื้อตัวก็มีแต่รอยแดงจากฝีมือของเจ้าชายน้ำแข็งเต็มไปหมด ร่างบางเริ่มรู้สึกถึงตัวตนของคาโลที่ยังค้างอยู่ในตัวที่เริ่มแข็งขืนขึ้นอีกครั้งก็ทำให้ใจแป้วรีบขอร้องอย่างเหนื่อยอ่อน
"คาโล พอเถอะนะ ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันขอโทษ ฮึก ฉันโกหก จริงๆแล้วฉันไม่เคยมีอะไรกับใครเลย แม้กระทั่งจูบฉันก็ไม่เคย ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าทำอะไรฉันอีกเลยนะฉันขอร้อง" ใบหน้าน่ารักที่อ้อนวอนทั้งน้ำตานอกจากจะไม่ช่วยทำให้คาโลใจอ่อนแล้วยังทำให้เขามีอารมณ์มากกว่าเดิมอีกต่างหาก
"เสียใจด้วยนะ แต่ถ้าฉันได้เริ่มแล้ว ฉันจะไม่มีทางหยุดจนกว่าจะพอใจ เพราะฉะนั้น ถือว่านี่เป็นบทเรียนให้หัวขโมยจอมปลิ้นปล้อนอย่างเธอก็แล้วกัน ว่าที่หลังอย่าคิดจะโกหกฉันอีก" สิ้นเสียงคาโลก็พลิกตัวเฟรินให้คว่ำหน้าลงทันที มือแกร่งยกสะโพกอิ่มขึ้นแล้วรั้งกระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วง ร่างบางได้แต่ซบหน้าลงกับหมอนเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น น้ำตาไหลเป็นทางลงบนหมอนจนเปียกชื้น คาโลกระแทกกระทั้นจนเฟรินสั่นคลอนไปทั้งร่างก่อนจะคว้าที่ไหล่บางแล้วดันแผ่นหลังให้ขึ้นมาแนบชิดกับหน้าอกแกร่งทำให้ตัวตนของเขาเข้าไปลึกกว่าทุกครั้ง มือหยาบขยำทรวงอกอิ่มทั้งสองข้างอย่างเมามันพร้อมๆกับช่วงล่างที่ยังทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ร่างสูงหยัดสะโพกอย่างรัวเร็วจนปลดปล่อยเข้าไปในตัวร่างบางอีกครั้ง เฟรินหมดแรงกองลงไปบนเตียง ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวหรือพูดได้แต่นอนหอบหายใจรวยริน นัยน์ตาปรือเหมือนคนใกล้จะหลับเต็มทีแต่คาโลก็ไม่ปล่อยให้เฟรินได้พักผ่อน ร่างหนานอนหงายลงบนเตียงแล้วยกสะโพกมนให้ทาบทับลงบนตัวตนใหญ่โตของตนแล้วสวนสะโพกกระแทกเข้าไปพร้อมๆกัน เฟรินคอพับคออ่อนฝืนกายให้ตั้งตรงไม่ไหวคาโลจึงจับมือทั้งสองข้างรวบไว้ด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างยังคงยกสะโพกมนให้ขยับขึ้นลงไม่หยุดหย่อน น้ำหนักตัวที่ทิ้งลงบนร่างหนายิ่งทำแก่นกายเข้าไปได้ลึกกว่าเดิม เฟรินรู้สึกเสียวกระสันจนเหมือนสติจะหลุดลอยออกจากตัว คาโลดึงตัวร่างบางเข้ามากอดไว้แนบอกก่อนจะรัวสะโพกเข้าหาจนเฟรินต้องรีบกอดคอของคาโลไว้เพื่อเป็นหลักยึด ร่างทั้งสองแนบแน่นบดเบียดจนไม่มีที่ให้อากาศลอดผ่าน แกนกายที่สอดลึกและรัวเร็วทำให้เฟรินต้องเชิดหน้าขึ้นแล้วครวญครางไม่เป็นภาษา ร่างหนาฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในตัวเฟรินเป็นรอบที่สามพร้อมๆกับสติของเฟรินที่ดับวูบลงทันทีเมื่อถึงฝั่งฝัน ร่างบางสลบเหมือดคาอกแกร่งทั้งๆที่ยังมีสิ่งแปลกปลอมค้างคาอยู่ในตัว
คาโลค่อยๆถอนแกนกายออกจากตัวของร่างบางก่อนจะลุกไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้ เมื่อเสร็จแล้วจึงสวมชุดนอนแล้วห่มผ้าห่มให้ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของสาวน้อย
"เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส เธอเป็นของฉันแล้วนะ เป็นของฉันเพียงคนเดียว"
เฟรินค่อยๆลืมตาขึ้น ร่างกายรู้สึกหนักอึ้งราวกับโดนหินทับไว ทันทีที่พยายามขยับตัวลุกขึ้นก็ต้องส่งเสียงร้องขึ้นมาทันทีเพราะความเจ็บปวดบริเวณช่วงล่างที่แล่นริ้วขึ้นมาจนทำให้ต้องล้มตัวลงไปนอนอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
"โอ๊ยยยย เจ็บเป็นบ้าเลย!"
"เจ็บก็อยู่นิ่งๆสิเป็นมั้ย ตื่นมาถึงก็โวยวายเลยนะแก" เสียงของคิล ฟีลมัสดังขึ้นข้างตัวทำให้เฟรินต้องหันขวับไปมองทันที แล้วก็ต้องพบกับสายตาพราวระยับของเพื่อนที่ส่งมาให้อย่างล้อเลียนทำให้หน้าสาวน้อยเริ่มขึ้นสีทันที
"เมื่อคืนปรับความเข้าใจกับคาโลมันอีท่าไหนล่ะ เช้ามาสภาพถึงยับเยินเหมือนไปฟัดกับจิ้งจอกเก้าหางมาขนาดนี้น่ะ"
"ฉันยอมฟัดกับจิ้งจอกเก้าหางเก้าตัวซะยังดีกว่าต้องเจอแบบเมื่อคืนอีก! ไอ้คาโลนะคาโลจะทะนุถนอมกันหน่อยก็ไม่ได้!" พูดจบก็รีบเอามือตะครุบปากตัวเองทันควันเพราะรู้ตัวว่าเผลอพูดมากไปเสียแล้ว สายตาเอาเรื่องจ้องมองเพื่อนรักที่มองมาด้วยสายตาล้อเลียนอย่างคนรู้ทันทำให้เจ้าคนที่กำลังอับอายต้องพาเปลี่ยนเรื่องทันที
"ว่าแต่แกเถอะ เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง ได้ใช้สูตรลับมัดใจหญิงของฉันรึเปล่า" ไม่ว่าเปล่าเจ้าคนไม่เจียมตัวยังรีบกระเถิบตัวเข้าไปใกล้เพื่อนรักแล้วแกล้งหยอกล้อด้วยการลูบไล้ไปตาแผงอกแกร่ง
"ผู้หญิงติดตรึมเลยล่ะสิท่า ก็บอกแล้วว่าวิธีของฉันน่ะมัดใจหญิงได้อยู่หมะ......"พูดยังไม่ทันจบเจ้าตัวก็หน้าถอดสีทันทีเมื่อเสียงเย็นเยียบดังแทรกขึ้นมา
"ใช่ สูตรลับของเธอท่าจะดีจริงๆ เพราะเมื่อคืนก็เล่นเอาฉันติดใจจนเกือบหยุดไม่ได้" คำพูดน่าอายเรียกให้พวงแก้มของสาวน้อยแดงแปร๊ดเป็นลูกตำลึงพร้อมถลึงตามองไอ้เจ้าชายแห่งคาโนวาลที่บัดนี้สายตาเย็นเยียบนั่นยังจ้องอยู่ที่ฝ่ามือเรียวของเธอที่วางแหมะอยู่บนหน้าอกของนักฆ่าแห่งซาเรสเพื่อนซี้ ทำให้คนเพิ่งรู้ตัวต้องรีบชักมือกลับแทบไม่ทันราวกับโดนของร้อน
"เอ่อ.....คือว่า ท่าทางแกคงอยากจะพักผ่อนนะเฟรินงั้นฉันขอตัวก่อนล่ะ เชิญพวกแกตามสบายเถอะนะ ฉันไม่กวนแล้ว" กล่าวจบก็รีบเดินปลีกตัวออกไปจากห้องทันทีโดยไม่นึกจะหันมามองเพื่อนรักที่ทำสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออยู่ข้างหลังเลยซักนิด ไอ้คิลนะไอ้คิล ทิ้งกันได้ลงคอ ทำแบบนี้ก็เหมือนปล่อยลูกแกะไว้กับหมาป่าชัดๆ! แล้วความคิดก็ต้องสะดุดกึกเมื่อไอ้เจ้าชายน้ำแข็งค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เตียงของเธอมากขึ้นทุกทีเรียกให้เจ้าตัวต้องกลืนน้ำลายเอื๊อก อยากจะขยับตัวหนีแต่ติดที่ตอนนี้ร่างกายมันไม่เป็นใจเอาซะเลยจึงทำได้แต่เพียงมองตามด้วยความหวาดหวั่น คาโลค่อยๆเท้าแขนคร่อมระหว่างหมอนของเฟรินกักตัวไว้ในวงแขนแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
"ดูเหมือนนิสัยขี้ยั่วของเธอยังรักษาไม่หายสินะ" ไม่ว่าเปล่าใบหน้าคมเริ่มซุกไซร้ลงที่ซอกคอขาวแล้วขบเม้มสร้างรอยประทับแสดงความเป็นเจ้าของจนทั่วไปหมด
"โอ๊ยย ไอ้บ้าา ฉันเจ็บนะ กัดเข้ามาได้ คอฉันเป็นรอยหมดแล้วมั้งเนี่ย แล้วอย่างนี้จะเอาหน้าที่ไหนไปสู้คนอื่นได้ มีรอยโชว์หราขนาดนี้น่ะ!"
"ก็ดีแล้วไง คนอื่นจะได้รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว แล้วจะได้เลิกยั่วผู้ชายไปทั่วซักที" เสียงแหบพร่าเอ่ยแต่ยังไม่หยุดวุ่นวายกับร่างกายของสาวน้อยตรงหน้าปากหยักไล่ขบเม้มสร้างรอยไปเรื่อยๆจนทั่วลำคอระหงและเนินอกอิ่ม มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุกสอดเข้าไปใต้กระโปรงบางทำให้เฟรินต้องรีบตะครุบเอาไว้ทันที
"มะ ไม่เอาแล้วนะคาโล ไม่เอาแล้ว ฉันขอโทษฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว" นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยจ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาสีฟ้าอย่างอ้อนว้อนพลางส่ายหัวไปมาจนหน้าขัน
"ถ้าอย่างนั้น ทำให้ฉันเชื่อสิว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ" นัยน์ตาสีฟ้าพราวระยับก้มลงมองเข้าไปในตาของเฟรินอย่างสื่อความหมาย เฟรินหรุบตาต่ำอย่างครุ่นคิดแล้วค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมองดวงหน้าของชายอันเป็นที่รัก หัวใจเต้นตึกตักกับสายตาที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว เฟรินค่อยๆโน้มใบหน้าคาโลลงมาเพื่อรับจูบแสนหวานจากเธออย่างเนิบช้า มันช่างนุ่มนวลและเบาหวิวราวกับจะทำให้เธอลอยได้ เฟรินค่อยๆผละริมฝีปากออกก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วเบาทว่าชัดเจนในโสตประสาทของคนฟัง
"ฉัน เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟ บารามอส ขอให้คำสัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อคาโล วาเนบลี เดอะปรินซ์ ออฟ คาโนวาลแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น" นัยน์ตาสีน้ำตาลสุกใสจ้องลึกเข้าไปในตาสีฟ้าสื่อความในใจที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
"ฉันเป็นของนาย และจะเป็นของนายคนเดียวตลอดไป คาโล" เมื่อกล่าวจบคาโลก็ประทับริมฝีปากลงมาอย่างนุ่มนวลทันที
ไม่ว่าเธอจะเป็นหัวขโมยแห่งบารามอส ปรินเซสออฟบารามอส หรือธิดาแห่งความมืดของเดมอส แต่สุดท้ายตำแหน่งของเธอ จะต้องเป็นชายาของเจ้าชายแห่งคาโนวาลคนนี้เท่านั้น เฟริน........
มีความฟิน55555
ตอบลบเด็ดมาก
ตอบลบ